สั่งปิดเรือนจำ 11 แห่ง สกัดโควิด

แชร์เลย

สั่งปิดเรือนจำ 11 แห่ง สกัดโควิด

ลิงค์: https://ehenx.com/12153/ หรือ
เรื่อง:


สั่งปิดเรือนจำ 11 แห่ง สกัดโควิด

“ยุติธรรม” สั่งปิดเรือนจำ 11 แห่ง งดเยี่ยมญาติ พร้อมแยกกักโรคนักโทษใหม่ งัด 7 มาตรการเข้มสกัดโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ที่หวนกลับมาให้คนไทยต้องร่วมกันระมัดระวัง ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขกันอย่างเข้มข้นกันต่อเนื่องต่อไปอีก ปรากฎความเคลื่อนไหวล่าสุด ที่เรือนจำกลางนครปฐม ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำเขต 7 นำโดยนายนักรบ นาคพรหม ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม ประธานเขต 7 รวมถึงผู้บัญชาการเรือนจำกลางเขาบิน ผบ.เรือนจำกลางราชบุรี ผบ.เรือนจำกลางสมุทรสงคราม ผบ.เรือนจำกลางสมุทรสาคร ผบ.เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี ผบ.เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ผบ.เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ ผอ.สถานกักกันนครปฐม ผบ.เรือนจำพิเศษธนบุรี และผบ.ทัณฑสถานหญิงธนบุรี

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับทราบถึงสถานการณ์ดังกล่าวและเป็นห่วงจึงกำชับถึงมาตรการป้องกันโรค ตามที่กรมราชทัณฑ์กำหนด โดยนายสมศักดิ์เห็นควรให้ใช้มาตรการดังกล่าวกับเรือนจำเขต 7 ทั้งหมดจึงขอให้เรือนจำเขต 7 ดำเนินการตามมาตรการสำคัญ ดังนี้

1.แยกกักกันโรคผู้ต้องขังรับใหม่ รับย้าย กลับจากรพ.ภายนอก อย่างน้อย 14 วัน และต้องปฏิบัติตามกระบวนการแยกกักกันโรคที่ถูกต้องอย่างเข้มงวด

2.งดการเยี่ยมญาติช่องทางปกติและให้มีการเยี่ยมญาติทางไลน์ทดแทน

3.”มาตรการคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า” ด้วยการงดนำผู้ต้องขังออก ทำงานภายนอกเรือนจำทุกกรณี และงดการนำบุคคลภายนอกเข้าเรือนจำ ยกเว้นมีความจำเป็น เช่น เจ็บป่วย

4.สร้างความเข้าใจ ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้ต้องขังและญาติ ตลอดจนจัดให้มีกิจกรรมผ่อนคลายความเครียดในเรือนจำช่วงระหว่างการงดเยี่ยมญาติ

5.กำชับเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องขังและญาติ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและ ควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เช่น สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การเว้นระยะห่างทางสังคมสังคม

6.งดการจัดกิจกรรมที่ต้องนำผู้ต้องขังมารวมกันมากๆ และจัดหาหน้ากากอนามัยให้ผู้ต้องขังทุกคนอย่างน้อยคนละ 2 ชิ้น

“ขอให้ผู้บัญชาการทุกท่านรับทราบมาตรการ และจัดการให้ดี พยายามประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ทั่วถึง ทั้งตัวผู้ต้องขังและญาติ และการนำตัวผู้ต้องขังไปยังศาลจะสามารถใช้วิธีวิดีโอคอนเฟอร์เร็นได้หรือไม่ และหากเรือนจำไหนมองแล้วว่าจะเกิดการลุกลามให้พิจารณาล็อกดาวน์ตัวเอง

สิ่งที่เราห่วง คือ เรื่องของคนในเรือนจำโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ พยายามเช็คอย่างละเอียดและไปในพื้นที่สุ่มเสี่ยงในเรือนจำต้องไม่มีโควิด” ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าว

จากนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้โทรวิดีโอเข้าร่วมประชุม โดยระบุว่า หากพบเชื้อที่ไหนให้กำหนดจุดบริเวณนั้น และวัดระยะห่างตีกรอบพื้นที่ และให้ทุกคนพิจารณาร่วมกัน เพราะเป็นเรื่องของข้อเท็จจริง หากจุดไหนเป็นจัดสุ่มเสี่ยงก็ต้องปิด โดยขณะนี้ได้ตีกรอบเบื้องต้นให้ 11 เรือนจำงดเยี่ยมญาติแล้ว ประกอบด้วย

1.เรือนจำกลางนครปฐม

2.เรือนจำกลางเขาบิน

3.เรือนจำกลางราชบุรี

4.เรือนจำกลางสมุทรสงคราม

5.เรือนจำกลางสมุทรสาคร

6.เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี

7.เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร

8.เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ

9.สถานกักกันนครปฐม

10.เรือนจำพิเศษธนบุรี

11.ทัณฑสถานหญิงธนบุรี

“เมื่อปิดการเยี่ยมญาติก็ให้ผู้บัญชาการทุกท่าน ใช้การสื่อสารทางไกล ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์สื่อสารกันแทนและเพิ่มรอบการเยี่ยม วางแผนให้ดี รวมถึงการใช้เทคโนโลยีอื่นๆ ตามสิทธิที่ผู้ต้องขังทุกคนควรจะได้ เช่น การพบศาลผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ การฝากเงินผ่านออนไลน์ และทำความเข้าใจกับผู้ต้องขังทุกคน ไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเรากีดกันสิทธิเสรีภาพจนเกิดความวุ่นวาย และขอให้ผู้บริหารทุกท่านนำมาตรการไปปฏิบัติตามสถานการณ์ หากมีปัญหาติดขัดตรงไหนให้รีบแจ้งมาทันที” นายสมศักดิ์ กล่าว