สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดรับสมัครสอบข้าราชการ 30 มี.ค. -26 เม.ย. 2565 รวม 241 อัตรา,

แชร์เลย

สำนักงานอัยการสูงสุดเปิดรับสมัครสอบข้าราชการ

สำนักงานอัยการสูงสุด

ลิงค์: https://ehenx.com/16575/ หรือ
ตำแหน่ง: นิติกรปฏิบัติการ
ระดับการศึกษา: ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน: 15,000-
อัตราว่าง: 241
ปฏิบัติงานที่: กรุงเทพมหานคร
เปิดรับสมัครตั้งแต่: 30 มี.ค. – 26 เม.ย. 2565
**เฉพาะผู้สอบผ่านภาค ก. ก.พ.**



สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดรับสมัคร

ประกาศสำนักงานอัยการสูงสุด

เรื่อง รับสมัครสอบแข่งชันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเช้ารับราชการ
ในตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ

ด้วยสำนักงานอัยการสูงสุดจะดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคล เข้ารับราชการเป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ ประเภทข้าราชการธุรการ ในตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา ๙๓ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของข้าราชการธุรการสำนักงานอัยการสูงสุด พ.ศ. ๒๕๕๓ และหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร ๑๐๐๔/ว ๑๗ ลงวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ เรื่อง การสรรหา โดยการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ จึงประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

ชื่อตำแหน่ง กลุ่มงาน และรายละเอียดการจ้างงาน

นิติกรปฏิบัติการ

อัตราว่าง : 241 อัตรา

อัตราเงินเดือน : 15000- บาท

คุณวุฒิ : ปริญญาตรี

คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง

นิติกรปฏิบัติการ

  • ได้รับปริญญาตรีหรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชานิติศาสตร์ จากสถาบันการศึกษาที่ ก.พ. รับรอง
  • เป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ในระดับปริญญาตรีขึ้นไป
    ของสำนักงาน ก.พ. หรือของสำนักงานอัยการสูงสุดมาแล้ว

ลักษณะงานที่ปฏิบัติ

นิติกรปฏิบัติการ

ลักษณะงานที่ปฏิบัติของตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ
แนบท้ายประกาศสำนักงานอัยการสูงสุด ลงวันที่    tab มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕

หน้าที่ความรับผิดชอบหลัก

ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถทางวิชาการ ในการทำงาน ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย งานด้านคดีและคุ้มครองสิทธิ และงานนิติการ ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้

1) ด้านการปฏิบัติการ

  1. รวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริง จัดเตรียมและค้นคว้ากฎหมาย อนุบัญญัติ คำสั่ง และข้อมูลที่เกี่ยวกับการจัดทำความเห็นทางวิชาการ การตอบข้อหารือหรือวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย การตรวจ ร่างสัญญาแกหน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุด หน่วยงานชองรัฐ หรือหน่วยงานอื่นตามที่ กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ชองสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งนี้ รวมถึงการร่างหนังสือ ตอบข้อหารือและหนังสือโต้ตอบต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของพนักงานอัยการ หรือผู้บังคับบัญชาให้บรรลุเป้าหมายและเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย
  2. ศึกษา ค้นคว้า และวิเคราะห์กฎหมาย อนุบัญญัติ คำสั่ง และข้อมูลที่เกี่ยวกับ การปฏิบัติงานและการแก้ไขข้อขัดช้องภายในหน่วยงานทีรับผิดชอบ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไป อย่างลูกต้องตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการ
  3. ศึกษา วิเคราะห์ และวิจัยเกี่ยวกับการยกร่างและการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และอนุบัญญัติของสำนักงานอัยการสูงสุด รวมถึงการจัดทำร่างความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่หน่วยงาน ภายนอกขอความเห็นจากสำนักงานอัยการสูงสุด ประชุมชี้แจงให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและการปฏิบัติตามพันธกรณี มาตรฐาน และธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศ ต่อบุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์และอำนวยความสะดวก ในการทำงาน โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
  4. ศึกษา ค้นคว้า ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการสอบสวนและการดำเนินคดีในทุกขั้นตอน ตรวจรับสำนวนหรือตรวจรับเรื่องในเบื้องต้น และสนับสนุน การพิจารณาสั่งคดีและการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการ ในการอำนวยความยุติธรรม เพื่อให้การปฏิบัติงาน ของพนักงานอัยการเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  5. ศึกษา ค้นคว้า ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายเกี่ยวกับ งานว่าต่างและแก้ต่างชองพนักงานอัยการในคดีที่สำนักงานอัยการสูงสุด หรือหน่วยงานอื่นชองรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติราชการแทนหน่วยงานนั้น ๆ รวมถึงบุคคลอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เป็นคู่ความ ในศาล งานอนุญาโตตุลาการ งานยุติข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐ งานเกี่ยวกับการบังคับคดี และงานจัดทำเอกสารและบัญชีการเบิกจ่ายเงินค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในคดี เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน ของพนักงานอัยการ ในการรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  6. ศึกษา ค้นคว้า ตรวจสอบ วิเคราะห์ข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และรวบรวม พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแกประชาชน การไกลเกลี่ย หรือการระงับข้อพิพาทโดยวิธีอื่นนอกเหนือจากการฟ้องคดี สนับสบุนข้อมูลในการปฏิบัติงานของพนักงานอัยการ
    ในการใช้มาตรการทางเลือกแทนการดำเนินคดีในชั้นศาลให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เพื่อให้การปฏิบัติงานของพนักงานอัยการและสำนักงานอัยการสูงสุดในการคุ้มครองสิทธิและชืวยเหลือ ทางกฎหมายแก่ประชาชนบรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธี้ตามที่กำหนด
  7. ศึกษา ค้นคว้า ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายในการ ร่างความเห็น ร่างหนังสือ จัดทำเอกสารเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาและทางแพ่ง และการคุ้มครองสิทธิระหว่างประเทศ และการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสบุนงานของ พนักงานอัยการให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายในการดำเนินงานด้านความร่วมมือ ระหว่างประเทศและการคุ้มครองสิทธิระหว่างประเทศ
  8. ศึกษา ค้นคว้า ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ในการยกร่าง ปรับปรุง แกIข หรือให้ความเห็นทางกฎหมายเกี่ยวกับนิติกรรมสัญญาและข้อตกลงในเรื่องต่าง ๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสำนักงานอัยการสูงสุด และให้การดำเนินการเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายและผลสัมฤหรี่I ตามที่กำหนด
  9. ศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัยของศาล และคำวินิจฉัยชี้ขาด ของอัยการสูงสุด สนับสนุนงานสรุปคำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัยของศาล และคำวินิจฉัยชี้ขาดของอัยการสูงสุด เพื่อให้การปฏิบัติงานของพนักงานอัยการและสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  10. ศึกษา ค้นคว้า รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลกฎหมายและข้อมูลวิขาการ ทางกฎหมายในด้านต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อใช้ประกอบการจัดทำหนังสือ ตำรา คู่มือ และสื่อสารสนเทศอื่นของสำนักงานอัยการสูงสุด รวมถึงเป็นข้อมูลประกอบในการพัฒนากฎหมายต่อไป
  11. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหา รวบรวม และตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย พร้อมทั้งจัดทำรายงานสรุปความเห็นและจัดเตรียมเอกสาร ที่เกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนการดำเนินการทางวินัย ข้าราชการ การร้องทุกข์หรืออุทธรณ์ และความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด รวมถึง การพิทักษ์ระบบคุณธรรม และการดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายปกครองที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการ และการดำเนินคดีของหน่วยงาน เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างถูกตอง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
  12. ศึกษา รวบรวม ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับงานด้านกฎหมาย งานด้านคดี และคุ้มครองสิทธิ และงานนิติการ รวมถึงการนำระบบเทคโนโลยีและข้อมูลสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผล เพื่อใช้ประกอบการนำเสนอหลักเกณฑ์ แนวทาง และมาตรการ และพัฒนา ระบบงาน มาตรฐานงาน แผนงาน และโครงการ เพื่อพัฒนาให้การปฏิบัติราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างต่อเนอง

2) ด้านการวางแผน

วางแผนการทำงานในความรับผิดชอบ หรือร่วมดำเนินการวางแผนการทำงาน แผนงาน หรือโครงการของหน่วยงาน และแผนการแก้ไขปัญหาหรือข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดำเนินงาน ของหน่วยงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธื้ตามที่กำหนด รวมทั้งสอดคล้องและตอบสนองต่อ นโยบายอัยการสูงสุด พันธกิจ ยุทธศาสตร์ และเป้าหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด

3) ด้านการประสานงาน

  1. ประสานงาน ประสานการทำงาน ติดต่อกับหน่วยงาน ทึมงาน โครงการ และบุคคล ที่เกี่ยวข้องภายในและภายนอกองค์กร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ครบล้วน
    สร้างความเข้าใจ หรือความร่วมมือไนการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงาน และเป็นประโยชน์ในการดำเนินงาน ด้านกฎหมาย งานด้านคดีและคุ้มครองสิทธิ และงานนิติการ ตลอดจนให้การตำเนินงานของหน่วยงาน เกิดความเชื่อมโยง ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายและผลส้มฤทธึ้ตามที่กำหนด
  2. สนับสนุนข้อมูลในการเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการ คณะทำงาน หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมวินิจลัยปัญหา แลกเปลี่ยนความเห็น เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับงานด้านกฎหมาย งานด้านคดีและคุ้มครองสิทธิ และงานนิติการ เพื่อประโยชน์ต่อการดำเนินงานของสำนักงานอัยการสูงสุดและหน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุด ให้มีประสิทธิภาพ

4) ด้านการบริการ

  1. ตอบข้อคำถาม ชี้แจง และให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับงานด้านกฎหมาย งานด้านคดี และคุ้มครองสิทธิ และงานนิติการในความรับผิดขอบเบื้องต้นแก่หน่วยงาน เจ้าหน้าที่และบุคลากร ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องและซ้นตอนการปฏิบัติงานของหน่วยงาน เพื่อให้ผู้รับบริการได้ทราบข้อมูลและความรู้ต่าง ๆ อันนำมาสู่ความเข้าใจในงานที่รับผิดชอบ เป็นประโยชน์ต่อผู้รับบริการในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องได้ อย่างลูกต้อง และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้รับบริการได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและงานที่อย่ ในความรับผิดชอบได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อเป็นการสนับสนุนงานตามภารกิจ ของหน่วยงาน
  2. สนับสนุนและให้ความร่วมมือในงานวิชาการด้านกฎหมาย งานด้านคดีและคุ้มครองสิทธิ และงานนิติการ ไนรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจัดทำเอกสารทางวิชาการ ค่มือหรือเอกสาร ตลอดจนการจัดอบรม หรือสัมมนาที่เกี่ยวกับกฎหมาย รวมถึงการดำเนินการเพื่อช่วยให้การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายเป็นไปอย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์แก่ข้าราชการ หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องและประชาชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความเข้าใจที่ดี และสนับสนุน งานตามภารกิจของหน่วยงานที่รับผิดขอบให้บรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทส์ตามที่กำหนด
  3. ให้คำแนะนำ ขี้แจง ตอบข้อคำถามในเบื้องต้น แก่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานภายใน สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อสร้างความเข้าใจที่ลูกต้องในกฎหมาย อนุบัญญัติ และคำสังที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์สำหรับการดำเนินงานของบุคคลหรือหน่วยงานดังกล่าว
  4. ให้บริการเขียนคำร้อง คำขอ และเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านกฎหมาย งานด้านคดีและคุ้มครองสิทธิ และงานนิติการ เพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนให้การดำเนินการ เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ โดยไม่กระทบต่อการปฏิบัติงานของพนักงานอัยการ หรือการดำเนินงานของสำนักงานอัยการสูงสุด
  5. เป็นวิทยากรให้ความรู้ทางกฎหมายเบื้องต้น เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย แก่บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงประขาชนทั่วไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนสนับสนุน ข้อมูลและร่วมเป็นวิทยากรบรรยายทางวิชาการ จัดการฟิกอบรมหรือถ่ายทอดความรู้ หรือนิเทศงานไห้แก่ เจ้าหน้าที่ไนหน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานและข้อกำหนด รวมถึงมีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
  6. ร่วมจัดสภาพแวดส้อมในการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพและประสิทธิผล การปฏิบัติราชการของหน่วยงาน

5) ด้านอื่น ๆ ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย

วิชาที่สอบ

นิติกรปฏิบัติการ

หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน
แนบท้ายประกาศสำนักงานอัยการสูงสุด ลงวันที่ .เอ h มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕

1 การสอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม ๒๐๐ คะแนน) โดยวิธีการสอบข้อเขียน แบบปรนัย จำนวน ๑๐๐ ข้อ เนื้อหาวิชาที่สอบ ดังนี้

  1. ประมวลกฎหมายอาญา
  2. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
  3. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
  4. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
  5. พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเดิม
  6. พระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓
  7. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓และที่แก้ไขเพิ่มเดิม
  8. ประมวลจริยธรรมข้าราชการฝ่ายอัยการและบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด
  9. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธคักราช ๒๕๖๐ หมวด ๑๓ (องค์กรอัยการ)

2. การสอบแข่งขันเพื่อวัดความเหมาะสมลับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน) โดยวิธีการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งจะพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน และพฤติกรรมที่ปรากฏทางอื่นของผู้เข้ารับการสอบแข่งขัน และจากการสัมภาษณ์ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ทวงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ ของข้าราชการฝ่ายอัยการ การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น รวมถึงสมรรถนะหลัก สมรรถนะที่จำเป็นของตำแหน่ง เป็นต้น

ทั้งนี้ จะดำเนินการสอบแช่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งก่อน และเมื่อสอบผ่านแล้ว จึงจะมีสิทธิเช้าสอบแช่งขันเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง

วิธีการสมัครงานข้าราชการ สำนักงานอัยการสูงสุด  :สมัครทางอินเทอร์เน็ต

ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. – 26 เม.ย. 2565 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ

ดาวน์โหลดประกาศ/ใบสมัคร”สำนักงานอัยการสูงสุด

แผนที่ | file 1 | เว็บรับสมัคร