สรุปมติศบค. มาตรการ ยกระดับสกัดโควิด

แชร์เลย

สรุปมติศบค. มาตรการ ยกระดับสกัดโควิด

ลิงค์: https://ehenx.com/13996/ หรือ
เรื่อง:


สรุปมติศบค. มาตรการ “ยกระดับสกัดโควิด”

สรุป มติศบค. มาตรการ “ยกระดับสกัดโควิด” แบ่งพื้นที่สีแดง-สีส้ม ทำอะไรได้-ไม่ได้บ้าง

วันที่ 16 เมษายน 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ยืนยันว่าไม่มีการเคอร์ฟิว และไม่มีการล็อกดาวน์ แต่มีการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์เพื่อลดการเคลื่อนย้ายประชากร และลดผลกระทบต่อทุกภาคส่วน โดยขอความร่วมมือให้ช่วยกันเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น เริ่มมีผลตั้งแต่ 18 เมษายน เป็นต้นไป

โดยในปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า เนื่องจากมีการกระจายเชื้อครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ จึงต้องดำเนินการและปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อย เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 18 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 59 จังหวัด

พื้นที่ควบคุมสูงสุด(สีแดง)ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่น)

มาตรการพื้นที่ควบคุมสูงสุด(สีแดง)

ร้านอาหารเครื่องดื่ม (non-alcohol) ได้ถึง 3 ทุ่ม take home ได้ถึง 5 ทุ่ม

ห้ามการจำหน่าย และบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน

ห้างสรรพสินค้า เปิดถึง 3 ทุ่ม

ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน เปิดได้ ตี 4 – 5 ทุ่ม

สนามกีฬา ยิม ฟิตเนส เปิดได้ถึง 3 ทุ่ม จัดแข่งกีฬาได้โดยจำกัดผู้ชมในสนาม

พื้นที่ควบคุม(พื้นที่สีส้ม) ได้แก่ 59 จังหวัดที่เหลือ โดยมีมาตรการ ดังนี้

ร้านอาหารเครื่องดื่ม (non-alcohol) เปิดได้ถึง 5 ทุ่ม

ห้ามบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน

ห้างสรรพสินค้า เปิดถึง 3 ทุ่ม

นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึง ร่างข้อกำหนดใหม่อื่นๆ ดังนี้

ห้ามการดำเนินการ หรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ได้แก่ ห้ามการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภท เว้นแต่การใช้เพื่อความช่วยเหลืออุปการะ หรือเป็นกรณีไป ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคล

ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พิจารณาสั่งปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยง เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ชั่วคราว

มาตรการรองรับผู้ติดเชื้อ ให้ ศปก.สธ. ร่วมกับ ศบค.มท. และ สปม. จัดหาสถานที่รองรับ ดูแลรักษา แยกกัก (โรงพยาบาลสนาม) และกักกัน (SQ / LQ/ ASQ) รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรอื่นๆ

ขอความร่วมมือเลื่อนหรืองดการจัดกิจกรรมสังสรรค์ งานเลี้ยงรื่นเริงในช่วงเวลานี้ก่อน

ขอความร่วมมือ Work from Home สลับวันทำงาน หรือวิธีอื่นที่เหมาะสม และลดการเคลื่อนย้ายบุคลากร

ผู้ติดเชื้อทุกรายขอให้เข้ารับการตรวจ และแยกกักในสถานที่ตามระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนด เพื่อจำกัดการระบาดและเพื่อความปลอดภัยของประชาชนโดยส่วนรวม

ให้ ศปก.ศบค. พิจารณาประเมินสถานการณ์เพื่อการปรับเปลี่ยนระดับพื้นที่สถานการณ์ และมาตรการแนวปฏิบัติได้ตามความเหมาะสม โดยจะทดลองใช้ 2 สัปดาห์เพื่อประเมินดูความเหมาะสม เพื่อพิจารณาการปรับเปลี่ยนต่อไป

เมื่อถามว่าไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวหมายความว่าหลังเวลา 23.00 น. ประชาชนสามารถเดินออกนอกเคหะสถาน หรือเดินทางออกต่างจังหวัดได้ใช่หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว  ประชาชนสามารถเดินทางทำกิจกรรมการค้า ขนส่ง ยังสามารถทำได้ แต่ตัวบุคคล  การเคลื่อนย้ายข้าจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่ควบคุม หากท่านรู้ว่าจะต้องเดินทางข้ามไป ก็ขอให้อย่าไป ขอให้อยู่นิ่งๆ คือสิ่งที่ขอความร่วมมือ เพื่อที่เราจะไม่ต้องบังคับใช้ข้อกำหนดที่แรงไปกว่านี้ ซึ่งเรียกว่าเคอร์ฟิว แต่ตอนนี้เราไม่ใช้

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.เป็นต้นไป ตนได้รับมอบหมายให้มาแถลงข่าว เพื่อสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจ.

แหล่งที่มา