“สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.)“
ลิงค์: https://ehenx.com/12131/ หรือ
ตำแหน่ง: นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ,นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ,นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ
ระดับการศึกษา: ปริญญาตรี
อัตราเงินเดือน: 15,000-16,500
อัตราว่าง: 22
ปฏิบัติงานที่: กรุงเทพมหานคร
เปิดรับสมัครตั้งแต่: 24 ธ.ค. – 17 ม.ค. 2564
**เฉพาะผู้สอบผ่านภาค ก. ก.พ.**
—
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เปิดรับสมัคร
เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ ในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ ตำแหน่งนักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ และตำแหน่งนักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ
ด้วยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) จะดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ ตำแหน่งนักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ และตำแหน่งนักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 17 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2556 เรื่อง การสรรหา โดยการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ จึงประกาศรับสมัครสอบแข่งขันฯ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ
อัตราว่าง : 5 อัตรา
อัตราเงินเดือน : 15000-16500 บาท
คุณวุฒิ : ปริญญาตรี
- กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดรับสมัครสอบข้าราชการ บัดนี้-20 พ.ย. 2567 รวม 75 อัตรา,
- กรมสรรพากร เปิดรับสมัครสอบ บัดนี้-22 พ.ย. 2567 รวม 33 อัตรา,
- กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดรับสมัครสอบพนักงานราชการ บัดนี้-25 พ.ย. 2567
- กรมการศาสนา เปิดรับสมัครสอบข้าราชการ บัดนี้-25 พ.ย. 2567 รวม 10 อัตรา,
- กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดรับสมัครสอบพนักงานราชการ 1 ส.ค. -9 ส.ค. 2567
นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ
อัตราว่าง : 15 อัตรา
อัตราเงินเดือน : 15000-16500 บาท
คุณวุฒิ : ปริญญาตรี
นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ
อัตราว่าง : 2 อัตรา
อัตราเงินเดือน : 15000-16500 บาท
คุณวุฒิ : ปริญญาตรี
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ
ได้รับปริญญาตรีหรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชานิติศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชาบริหารรัฐกิจหรือรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ สาขาวิชาจิตวิทยา สาขาวิชาใดวิชาหนึ่งทางสถิติ
นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ
ได้รับปริญญาตรีหรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชานิติศาสตร์
นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ
ได้รับปริญญาตรีหรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งทางภาษาอังกฤษ
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ
นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการ ในการทำงานปฏิบัติงานด้านวิเคราะห์นโยบายและแผน ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่างๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
- รวบรวม วิเคราะห์ และประมวลนโยบายของรัฐบาลและสถานการณ์เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาสรุปเสนอประกอบการกำหนดนโยบายและเป้าหมายของส่วนราชการหรือนโยบาย แผนงาน และโครงการทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การบริหาร หรือความมั่นคง
- รวบรวมข้อมูล และศึกษาวิเคราะห์เบื้องต้น เกี่ยวกับภารกิจหลักและแผนกลยุทธ์ของส่วนราชการ หรือทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เพื่อวางแผนกำหนดแผนการปฏิบัติงานหรือโครงการให้สามารถบรรลุภารกิจที่กำหนดไว้
- วิเคราะห์นโยบายของส่วนราชการ หรือนโยบาย แผนงาน และโครงการทางเศรษฐกิจ สังค การเมือง การบริหาร หรือความมั่นคง และเสนอข้อคิดเห็น เพื่อช่วยจัดทำแผน การปฏิบัติงาน แผนงานโครงการ หรือ กิจกรรมได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
- สำรวจ รวบรวม และประมวลผลข้อมูลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการจัดทำแผนงานหรือกำหนดยุทธศาสตร์
- ศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาล เพื่อประกอบการเสนอแนะแนวทางการประสานผลักดันยุทธศาสตร์และนโยบาย ตลอดจนการติดตามประเมินผลให้สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวาแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
- ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทะิ์ตามที่กำหนด
- ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
- รวบรวมข้อมูล เพื่อเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับการจัดทำแผนงานโครงการ
- ให้คำปรึกษา แนะนำ ตอบปัญหา และชี้แจงเรื่อต่างๆ เกี่ยวกับงานนโยบายและแผนเพื่อแก้ปัญหาในการปฏิบัติงาน
นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการในการทำงานปฏิบัติงานด้านสืบสวนสอบสวน ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษระงานที่ปฏิบัติในด้านต่างๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
- ศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ เกี่ยวกับพัฒนาการของระบบการสืบสวนสอบสวน และวิธีการสืบสวนสอบสวน เืพ่อนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาระบบการสืบสวนสอบสวนให้มีความรวดเร็วและชัดเจนมากที่สุด
- แสวงหา ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลหลักฐาน แล้วนำมารวบรวม เพื่อให้ทราบรายละเอียดแห่งความผิด หรือเพื่อหาข้อพิสูจน์ความผิด
- จัดทำสำนวนการสืบสวนสอบสวน เพื่อเป็นการตรวจสอบในส่วนของรายละเอียดและหาจุดบกพร่อง น่าสงสัยอันควรมีการสืบสวนสอบสวน
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
- ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทะิ์ตามที่กำหนด
- ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
ให้คำแนะนำปรกึษาแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถดำนินงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษระพิเศษของงานที่ปฏิบัติ
เป็นเจ้าหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติงานในสภาพที่อาจเป็นอันตรายในสถานที่ที่ไม่น่าอภิรมย์ และตรากตรำ นอกเหนือจากงานประจำ
นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ
ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการในการทำงานปฏิบัติงานด้านวิเทศสัมพันธ์ ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่างๆ ดังนี้
1. ด้านการปฏิบัติการ
- ร่าง โต้ตอบหนังสือเป็ฯภาษาต่างประเทศ งานแปลเอกสารภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เพื่อใช้ในการติดต่อประสานงานกับองค์กรระหว่างประเทศ
- รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และติดตามประเมินผล จัดทำบันทึก สรุปรายงานการประชุม ความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชา
- จัดเตรียมข้อมูลสำหรับการเจรจาความร่วมมือทางวิชาการกับต่างประเทศ เพื่อให้การประชุมเจรจาบรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนด
- ส่งเสริม สนับสนุน ดำเนินการเกี่ยวกับทุนการศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน ผู้เชี่ยวชาญ วัสดุ อุปกรณ์ อาสาสมัคร องค์การพัฒนาเอกชนและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานความร่วมมือ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความราบรื่น
2. ด้านการวางแผน
วางแผนการทงำานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด
3. ด้านการประสานงาน
- ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด
- ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย
4. ด้านการบริการ
- เผยแพร่ความรู้ทั่วไปด้านการต่างประเทศแก่ผู้มาติดต่อ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอันดีและถูกต้อง เผยแพร่ความรู้ ให้คำปรึกษาและชี้แจงตอบปัญหาด้านการต่างประเทศแก่ผู้ที่มาติดต่อ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอันดีและถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย
- รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานด้านต่างประเทศ เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูล
วิชาที่สอบ
นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ
1. สอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ผู้สมัรสอบต้องเข้าสอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งนักวิเคราห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ ดังนี้
- ความรู้เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) (40 คะแนน)
- ความรู้เกี่ยวกับนโยบายด้านยาเสพติดและแผนปฏิบัตการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (50 คะแนน)
- ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ การจัดทำแผนงาน/โครงการ การติดตามและประเมินผล การจัดทำงบประมาณ (50 คะแนน)
- ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม สถานการณ์ปัจจุบันทางการเมืองเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีของประเทศไทยและต่างประเทศ (20 คะแนน)
- ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับการงบประมาณ (40 คะแนน)
- พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561
- ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.2562
2. สอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
โดยวิธีการสัมภาษณ์ เป็นการประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน จากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฎของผู้เข้าสอบและจากการสัมภาษณ์ ทั้งนี้ อาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ จรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือน คุณธรรม จริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้น และรวมถึงสมรรถนะหลัก สมรรถนะที่จำเป็นของตำแหน่ง
ทั้งนี้ จะทดสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งก่อน และเมื่อสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งแล้ว จึงจะมีสิทธิเข้ารับการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง
นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ
1. สอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ผู้สมัรสอบต้องเข้าสอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งนักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ ดังนี้
- กฎหมายและระะเบียบเกี่ยวกับยาเสพติด (120 คะแนน)
- พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 และที่แก้ไขเพิ่มเติมรวมถึงประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
- พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎกระทรวงและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
- พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 รวมถึงกฎกระทรวง ประกาศระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
- พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎกระทรวง ประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
- พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท พ.ศ.2559
- พระราชบัญญํติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545
- พระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ.2533
- ประมวลกฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
- ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
- คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2559 เรื่อง มาตรการป้องกันการลักลอบนำสารเคมี วัสดุ หรือเครื่องมือบางประเภทไปใช้ผลิตยาเสพติด
- ความรู้เกี่ยวกับงานด้านการสืบสวนสอบสวน (40 คะแนน)
- ความรู้เกี่ยวกับนโยบายด้านยาเสพติดและแผนปฏิบัตการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (20 คะแนน)
- ความรูทั่วไปเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม สถานการณ์ปัจจุบันทางการเมืองเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีของประเทศไทยและต่างประเทศ (20 คะแนน)
2. สอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
1. การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย (คะแนนเต็ม 40 คะแนน)
ทดสอบสมรรถภาพของร่างกายด้านความแข็งแรงของร่างกาย ความคล่องตัว ความเร็ว ความอดทน โดยการวิ่งและว่ายน้ำภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนี้
1.1 วิ่งเป็นระยะทาง 1,000 เมตร
ชาย | หญิง | ||
ระยะเวลา (นาที) | คะแนน | ระยะเวลา (นาที) | คะแนน |
ภายใน 5 นาที | 20 | ภายใน 6 นาที | 20 |
5.01-5.20 นาที | 15 | 6.01-6.20 นาที | 15 |
5.21-5.40 นาที | 10 | 6.21-6.40 นาที | 10 |
5.41-6 นาที | 5 | 6.41-7 นานี | 5 |
6.01 นาที ขึ้นไป | 0 | 7.01 นาที ขึ้นไป | 0 |
1.2 ว่ายน้ำเป็นระยะทาง 25 เมตร
ชาย | หญิง | ||
ระยะเวลา (นาที) | คะแนน | ระยะเวลา (นาที) | คะแนน |
ภายใน 30 วินาที | 20 | ภายใน 50 วินาที | 20 |
31-35 วินาที | 15 | 51-54 วินาที | 15 |
36-40 วินาที | 10 | 56-60 วินาที | 10 |
41-45 วินาที | 5 | 61-65 วินานี | 5 |
46 วินาที ขึ้นไป | 0 | 66 วินาที ขึ้นไป | 0 |
ทั้งนี้จะต้องเข้ารับการทดสอบทั้งสองกิจกรรมจึงจะมีสิทธิเข้ารับการสัมภาษณ์
2.2 การสัมภาษณ์ (60 คะแนน)
โดยวิธีการสัมภาษณ์ เป็นการประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน จากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฎของผู้เข้าสอบและจากการสัมภาษณ์ ทั้งนี้ อาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ จรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือน คุณธรรม จริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้น และรวมถึงสมรรถนะหลัก สมรรถนะที่จำเป็นของตำแหน่ง
ทั้งนี้ จะทดสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งก่อน และเมื่อสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งแล้ว จึงจะมีสิทธิเข้ารับการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง
นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ
1. สอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ผู้สมัรสอบต้องเข้าสอบแข่งขันเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งนักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ ดังนี้
- วิชาภาษาอังกฤษ (160 คะแนน)
- ความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ (Structure, Vocabulary and Reading Comprehension) (ปรนัย 50 คะแนน)
- ความสามารถในการวิเคราะห์ สรุปและจับประเด็นสำคัญ แปลความจากภาษาไทยเป็ฯภาษาอังกฤษ และแปลความจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย (อัตนัย 40 คะแนน)
- การร่างหนังสือโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ (อัตนัย 40 คะแนน)
- ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม สถานการณ์ปัจจุบันทางการเมืองเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีของประเทศไทยและต่างประเทศ (ปรนัย 20 คะแนน)
- ความรู้เกี่ยวกับนโยบายด้านยาเสพติดและแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปรนัย 20 คะแนน)
2. สอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
โดยวิธีการสัมภาษณ์ เป็นการประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน จากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฎของผู้เข้าสอบและจากการสัมภาษณ์ ทั้งนี้ อาจใช้วิธีการอื่นใดเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ เช่น ความรู้ที่อาจใช้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ความสามารถ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ จรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือน คุณธรรม จริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ และบุคลิกภาพอย่างอื่น เป็นต้น และรวมถึงสมรรถนะหลัก สมรรถนะที่จำเป็นของตำแหน่ง
ทั้งนี้ จะทดสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งก่อน และเมื่อสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งแล้ว จึงจะมีสิทธิเข้ารับการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง
วิธีการสมัครงานข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) :สมัครทางอินเทอร์เน็ต
ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. – 17 ม.ค. 2564 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ดาวน์โหลดไฟล์ “สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.)
แผนที่ | ประกาศ 1 | เว็บรับสมัคร |